ถาม : บ้านและที่ดิน เป็นสินสมรสมีชื่อคู่สมรส ทั้งสองฝ่ายถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันหลังจากนั้นเลิกรา และได้มีบันทึกหลังการหย่าว่ายกบ้านและที่ดินให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอีกฝ่ายหนึ่งเพียงผู้เดียว ไม่ทราบว่าต้องให้ฝ่ายที่จะโอนมาเซ็นร่วมโอนด้วยหรือไม่? และถ้าไม่สามารถมาเซ็นได้ด้วยตนเอง จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร?
ตอบ : กรณีคู่สมรสเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน สามารถจดทะเบียนเป็นชื่อของอีกฝ่ายคนเดียว โดยจดทะเบียนประเภทแบ่งทรัพย์สินระหว่างคู่สมรส ทั้งสองฝ่ายต้องมายื่นคำขอจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่สามารถมาดำเนินการได้ สามารถทำหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายื่นคำขอแทนได้
ถาม : พินัยกรรมตัวจริงหาย สามารถใช้สำเนาไปทำเรื่องรับมรดกที่ดินได้หรือไม่อย่างไร
ตอบ : หากผู้ขอไม่สามารถนำต้นฉบับพินัยกรรมมาประกอบการยื่นขอจดทะเบียนโอนมรดกได้ เนื่องจากสูญหายหรือถูกทำลาย ผู้ขอสามารถนำสำเนาพินัยกรรม ที่เคยนำไปแสดงต่อหน่วยราชการ เช่น ศาล หรือสำนักงานที่ดินอื่น และพนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้น ได้รับรองสำเนาถูกต้อง มาใช้เป็นหลักฐานแทนต้นฉบับพินัยกรรมก็ได้
ถาม : จะแบ่งแยกโอนมรดกหลังจากเมื่อศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว มีขั้นตอน/และเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
ตอบ : กรณีศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว ผู้จัดการมรดกประสงค์จะแบ่งแยกที่ดินมรดก สามารถยื่นคำขอลงชื่อผู้จัดการมรดกในโฉนดที่ดินและขอรังวัดแบ่งแยกที่ดินได้ เอกสารประกอบการขอลงชื่อผู้จัดการมรดกและรังวัดแบ่งแยก เช่น โฉนดที่ดิน ใบมรณบัตร พินัยกรรม (ถ้ามี) คำสั่งศาลตั้งผู้จัดการมรดกและบัตรประจำตัวประชาชนของผู้จัดการมรดก นำไปยื่นคำขอลงชื่อผู้จัดการมรดกและรังวัดแบ่งแยกต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินท้องที่
ถาม : กรณีที่บิดามารดาเสียชีวิต มีบุตรด้วยกัน 4 คน (ยังมีชีวิต) กรณีที่บิดามารดายกที่ดินให้นาย 2
(ยกตัวอย่าง) แปลงนี้คนเดียว พี่น้องรับรู้ทุกคน ถ้าจะโอนที่ดินต้องมีขั้นตอนหรือรายละเอียดยังไงบ้างคะ
ตอบ : กรณีบิดามารดาเสียชีวิตมีบุตร ๔ คน หากมีบุตรคนเดียวขอรับมรดก บุตรที่ไม่ประสงค์จะรับมรดกต้องแจ้งเป็นหนังสือไม่ประสงค์ขอรับมรดก เอกสารประกอบการขอรับมรดก เช่น โฉนดที่ดิน ใบมรณบัตร พินัยกรรม (ถ้ามี) และบัตรประจำตัวประชาชนของทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกทุกคน นำไปยื่นขอรับมรดกต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินท้องที่