สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา ได้เปิดทำการเป็นครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ.2464 โดยอยู่ร่วมกับทรัพยากรธรณี ในสมัยนั้นเรียกว่า "ที่ดินและโลหกิจ" การบริการประชาชนในครั้งแรกใช้ห้องหนึ่งของศาลากลางจังหวัด เป็นที่ทำการ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2484 จึงได้แยกงานที่ดินออกมาจากงานของกรมทรัพยากรธรณีแต่กระนั้นก็ตาม ที่ทำการของสำนักงานที่ดินจังหวัด ก็ยังรวมอยู่ในที่เดียวกับทรัพยากรธรณี จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ.2492 จึงได้แยกที่ทำการออกมาจากศาลากลางจังหวัด มาใช้อาคารเก่า ๆ หลังหนึ่งในบริเวณศาลากลางเก่า (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจังหวัดสงขลา) เป็นที่ทำการ ถึงกระนั้นอาคารหลังนี้ก็ยังใช้เป็นที่ทำการของโลหกิจจังหวัดด้วย จนกระทั่งปี พ.ศ.2504 โลหกิจจังหวัดจึงได้แจ้งว่า ได้รับงบประมาณก่อสร้างที่ทำการใหม่ จำเป็นต้องรื้ออาคารหลังนี้เพื่อนำวัสดุบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างด้วย สำนักงานที่ดินจังหวัดจึงต้องไปเช่าอาคารของเอกชนเป็นที่ทำการ จนถึง พ.ศ.2506
ในปี พ.ศ.2506 กรมที่ดินจึงได้จัดสรรงบประมาณให้ทำการก่อสร้างสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา ได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนมีนาคม 2506 ไปแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2506 ได้ทำพิธีเปิดเป็นทางการเมื่อเดือน มีนาคม 2507 เป็นอาคารคอมกรีตชั้นเดียวทรงไทย ตั้งอยู่ที่ ถนนปละท่า อำเภอเมืองสงขลา และได้ใช้อาคารหลังนี้เป็นที่ทำการตลอดมาจนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2529 รวมเวลาประมาณ 22 ปีเศษ
เนื่องจากงานด้านที่ดินในจังหวัดสงขลา ได้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี เอกสารสารบบก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อัตรากำลังเจ้าหน้าที่ก็ต้องขยายตามไปด้วย อาคารคอนกรีตชั้นเดียวทรงไทยที่ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2506 เริ่มไม่เพียงพอแก่การจัดเก็บเอกสาร สถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ และส่วนที่ใช้บริการแก่ประชาชนมีสภาพแออัด ที่นั่งพักรอไม่เพียงพอ กรมที่ดินได้จัดสรรงบประมาณให้จังหวัดสงขลา เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา ขึ้นใหม่อีกหนึ่งหลัง ในวงเงินงบประมาณ 3,958,000.- (สามล้านเก้าแสนห้าหมื่นแปดพันบาทถ้วน) จังหวัดได้ทำการประกวดราคาก่อสร้าง ปรากฏว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดพันธ์พงศ์ก่อสร้าง เป็นผู้ประมูลได้ในวงเงิน 3,330,000.- บาท (สามล้านสามแสนสามหมื่นบาทถ้วน) ได้ทำสัญญาก่อสร้างเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2528 และได้ทำการก่อสร้างแล้วเสร็จส่งมอบงาน เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2529
สำหรับอาคารหลังใหม่นี้ ได้ใช้เป็นที่บริการประชาชนมาตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2529 และได้รับเกียรติอย่างสูงสุดจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ฒิณสูลานนท์ มาเป็นประธานในพิธีเปิดเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2529